[BOOKMARK MAGAZINE] is an online monthly publication that publishes the in-depth discussion from multidisciplinary practitioners on the topics that emerge in the conversation within the BOOKSHOP LIBRARY. These in-depth discussions open the stage for critical debate on the contemporary issues that we would like to share to the public.
From Montika Kham-on <kmontika@gmail.com> Date: Feb 11, 2022, 10:36 PM Subject: The Classroom is Burning To: Kantida (kantida@bangkokcitycity.com)
สวัสดีค่ะพี่แพรว
พี่แพรวยังคงจำหนังสือ Letters: The Classroom is Burning, let’s dream about a School of Improper Education ที่ให้เอิร์นเป็นของขวัญได้ไหมคะ มันเป็นเรื่องราวของตัวละครสามคนที่เขียนอีเมลเพื่อพูดคุยถกเถียงในประเด็นการศึกษา ทันทีที่เอิร์นอ่านจบ เอิร์นก็รีบร่างจดหมายนี้ขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น เพราะรู้สึกว่าพวกเรานั้นไม่ต่างอะไรจากตัวละครในเรื่องราวนี้เลย
ในวันแรกที่เอิร์นรับสายจากพี่แพรวและเราแลกเปลี่ยนความเห็นต่อประเด็นการศึกษา เอิร์นพรั่งพรูเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับประสบการณ์ในรั้วมหาลัยว่าเราทั้งโกรธ ทั้งผิดหวังแค่ไหน ไม่ต่างจากตัวละคร Sul ในหนังสือเล่มนี้ที่เขียนจดหมายถึงเพื่อนว่าเธอไม่ได้รับการตอบรับจากการสมัคร fellowship ด้วยน้ำเสียงเดียวกัน
เราเห็นคนคนหนึ่งที่เฝ้ามองการผ่านมาผ่านไปของผู้คนในร้านหนังสือ แต่จิตวิญญาณได้เดินทางต่อไปพร้อมๆ กับเรื่องราวของผู้คน ชีวิตและการเรียนรู้ที่ไม่ได้แยกออกจากกัน เหมือนดั่งประโยคที่จริงที่สุดในหนังสือเล่มนี้ “There is no line between life and study.”
ด้วความคิดถึง,
เอิร์น
THE CLASSROOM IS BURNING EP.1 พูดคุยกับ อภิโชค จันทรเสน
ก่อนที่จะถึงวันนัดคุยกับผู้ที่ชวนมาร่วมสนทนาด้วยกันคนแรก เรารู้จักชื่อของพี่นทในฐานะนักเขียนบทความออนไลน์เกี่ยวกับภาพยนตร์ หนังสือ และเกมส์ ลงเว็บไซต์สื่อออนไลน์ทั้ง a day และ Filmclub จนได้มาเจอตัวจริงจากการออกบูธของหนังสือรายอิสระ IF WE BURN, ที่งานเทศกาลหนังสือศิลปะกรุงเทพฯ Bangkok Art Book Fair 2021 ในช่วงระยะเวลาการพูดคุยกันสั้นๆ ทำให้เราทราบเพิ่มเติมว่าชายผู้นี้เคยฝึกงานเป็นนักเขียนบทและทำงานอยู่ที่บริษัทผลิตภาพยนตร์ชื่อดัง เขาให้ความเห็นในเรื่องข้อจำกัดในการผลิตภาพยนตร์ไทย และนั่นเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ออกจากงานประจำแล้วไปเรียนต่อต่างประเทศ โดยหลังจากที่กลับมา นอกเหนือจากงานด้านกำกับและเขียนบทแล้ว เขายังมีบทบาทเป็นอาจารย์พิเศษ สอนในสถาบันเก่าที่ตัวเองจบการศึกษา ซึ่งการสลับบทบาทจุดนี้เองที่ทำให้รู้สึกว่าอยากจะถามคำถามกับคนผู้นี้ที่มองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าทั้งในสายตาของผู้เรียนและผู้สอน
“เราไปรับรู้เรื่อง creative process ที่ต่างจากส่ิงที่คณะและเมืองไทยสนใจเลย จริงๆ ที่เราพูดถึงทีสิสว่าเป็นปราการด่านสุดท้ายของชีวิตนักศึกษา เป็นตัวอย่างที่ดีมากของระบบความคิดที่ไม่ได้คิดถึง creative process แต่คิดถึง end result คิดถึงงานชิ้นสุดท้าย ความซวยของคนทำงานครีเอทีฟส่วนนึงคือ เราทำงาน 100 ส่วน แต่สิ่งที่คนมาเห็นจริงๆ คือ 5 ส่วนในร้อยนั้น เขาไม่รู้หรอกว่าที่เหลือเราทำอะไรไปบ้าง เราเฆี่ยนตีตัวเองขนาดไหน แทนที่เราจะไปสนใจที่ final product เราลองมาสนใจที่ตัว process ระหว่างทางมั้ย ในตอนแรกที่เราพูดไปว่า ไม่มีใครไปแคร์อะ ซึ่งมันฟังดูแย่ แต่จริงในทางเดียวกัน มันก็ดีเพราะมันไม่มีใครแคร์ไงว่าในระหว่างนี้เราไปเละเทะอะไรยังไงแค่ไหน หรือทำในที่คนอื่นคิดว่าเละแต่จริงๆ มันคือ process ของเรา”— อภิโชค จันทรเสน
THE CLASSROOM IS BURNING EP.2 พูดคุยกับ ณฐพล บุญประกอบ
ถ้าให้ลองนึกดูว่ามีใครเล่าถึงประสบการณ์การไปเรียนต่างประเทศด้วยอารมณ์เฟลบ้าง ส่วนตัวเราจะนึกถึงพี่ไก่ เพราะนั่นคือหนึ่งในส่ิงที่ได้จากการไปนั่งฟังวงสนทนา “ห้องเรียน(หนัง)ในฝัน” ที่เกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีที่แล้วในหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ หลังการฉายภาพยนตร์สารคดีโดย Documentary Club เรื่อง The Graduation (2559) สารคดีว่าด้วยเรื่องราวการคัดเลือกคนเข้าเรียนของสถาบันลา เฟมีส (ฝรั่งเศส) ตัวพี่ไก่กับการเรียนจึงเป็นภาพจำในหัวมาตลอดแทนที่จะเป็นไก่กับสารคดี หรือไก่กับอื่นๆ แต่เหนือสิ่งอื่นใดเมื่อวาร์ปมาถึงจุดที่กำลังปั้นโปรเจกต์ THE CLASSROOM IS BURNING ชื่อของเขาจึงอยู่ในลิสต์โดยเราและเอิร์นเห็นพ้องต้องกันว่าไม่สามารถขาดคนนี้ไปได้
อภิโชค จันทรเสน(นท) นักเขียนบทและผู้กำกับภาพยนตร์และซีรีส์ที่สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับคนชายขอบ ประเด็นทางสังคม และสุขภาพจิต รักในการนำเรื่องยากมาย่อยให้เข้าใจง่ายผ่านการเล่าด้วย genre ต่างๆ โดยเฉพาะภาพยนตร์ตลกและสยองขวัญ อภิโชคจบการศึกษาด้านภาพยนตร์จาก University of Southern California ลอส แองเจลิส และคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ณฐพล บุญประกอบ (ไก่) ผู้กำกับภาพยนตร์สารคดีเรื่อง เอหิปัสสิโก (Come and See, 2562) และผู้ร่วมเขียนบทและกำกับภาพยนตร์เรื่อง One for the road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ (2565) ณฐพลสนในประเด็นทางสังคมเฉพาะเรื่อง ด้วยความต้องการอยากจะเข้าใจถึงที่มาที่ไป เหตุผลในการกระทำของคนและการเกิดขึ้นของส่ิงต่างๆ งานของเขาจึงเล่าผ่านสื่อภาพเคลื่อนไหวประเภทสารคดี https://www.nottaponboon.com
Dude, Movie(อ้น—ณัฐกุล คำพินิจ, ไอซ์—อนันตญา ชาญเลิศไพศาล, จอร์จ—ภัทร ล้อมลาย, ยอร์ช—สหัสวรรษ ทาติ๊บ) ในเดือนมกราคม 2564 Dude, Movie เริ่มต้นความคิดที่จะจัดโรงฉายภาพยนตร์ที่มีเพียงจอฉายสีขาวและเครื่องฉาย ณ ดาดฟ้าของโฮสเทลแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ โดยภาพยนตร์เรื่อง Dead Poets Society ถูกหยิบมาฉายเป็นเรื่องแรกอย่างไม่มีพิธีรีตอง และการเริ่มงานในวันแรกของ Dude, Movie ก็ได้กลายเป็นธงนำทางจนถึงปัจจุบัน https://www.facebook.com/Dudemovie