BOOKSHOP LIBRARY
[BOOKMARK MAGAZINE]

Back

[BM] 11

THE CLASSROOM IS BURNING

POSTED ON 03/02/2022 IN CONVERSATION—
มนธิการ์ คำออน อภิโชค จันทรเสน ณฐพล บุญประกอบ Dude, Movie

[BOOKMARK MAGAZINE] ฉบับที่ 11 THE CLASSROOM IS BURNING ตั้งต้นด้วยการทบทวบกลับไปที่ระบบการศึกษา เมื่อคำว่า ‘การเรียนรู้’ ไม่ถูกจำกัดอยู่ในขอบเขตของสถาบันการศึกษาอีกต่อไป ทั้งยังเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ตลอดชีวิต ผู้เรียน ผู้สอน และนักปฏิบัติการที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับการศึกษา พวกเขานิยามคำว่า ห้องเรียน ของตัวเองอย่างไร ‘อะไร’ คือปัญหาเรื้อรังที่มองเห็น วิธีแก้ไขมันคืออะไร งานที่ทำท้าทายความคิด ความเชื่อชุดเดิมอะไรในสังคมบ้างหรือไม่ รวมถึงในช่วงเวลาที่ผ่านมา เมื่อเงื่อนไขของโรคระบาดกำกับให้ต้องปรับตัวตามสถานการณ์ พวกเขาเหล่านี้จัดการตัวเองอย่างไรบ้าง ระหว่างทางของการพูดคุยร่วมกันครั้งนี้ เป็นเหมือนกระบวนการที่ค่อย ๆ ค้นหาว่าแต่ละคนกำลังเต้นไปกับแรงลมด้วยท่าทางแบบใดกัน โดยที่ยังสามารถยืนหยัดในสิ่งที่เชื่อโดยไม่สูญสิ้นความเป็นตัวเองไป

เริ่มต้นจากตัวเองในฐานะคนที่เรียนในระบบการศึกษาของไทยมาโดยตลอด กานต์ธิดา บุษบา (แพรว) หนึ่งในสต๊าฟของ BOOKSHOP LIBRARY จึงสังเกต เงี่ยหูฟังและถามคำถามเมื่อสบโอกาสว่าคนรอบตัวโดยเฉพาะผู้ที่ยังต้องแบ่งเวลาส่วนหนึ่งในชีวิตให้กับการเรียนอยู่ มีความสัมพันธ์ที่ไม่ว่าจะดีหรือเลวร้ายกับการเรียนอย่างไร นำไปสู่การชักชวน มนธิการ์ คำออน (เอิร์น) อดีตนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์และปัจจุบันใช้ชีวิตในฐานะนักสร้างภาพยนตร์ ที่รู้จักตอนแรกในฐานะหนึ่งในสมาชิกกลุ่มแรงงานนักเรียนหนัง ที่เคยจัดคลับเฮาส์ ‘นักเรียนหนังถาม – สหภาพคนทำหนังเป็นไปได้ไหม?’ มาให้ความหมายของ ‘ห้องเรียน’ ด้วยกัน เนื่องจากเรียนมาคนละสาย ระหว่างการทำงานพวกเราจึงตั้งคำถามต่อเรื่องที่ไม่เข้าใจ เรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความสนใจของแต่ละคนอยู่บ่อยครั้งพร้อมๆ ไปกับโยนไอเดียว่ามีเรื่องอะไรอีกที่อยากรู้และใครคือคนที่ให้คำตอบได้บ้าง

เนื้อหาเริ่มด้วยภาพยนตร์สารคดีขนาดสั้น ผลงานกำกับของเอิร์นที่เป็นบันทึกเส้นทางการทำวิทยานิพนธ์จบการศึกษาของตัวเอง เล่าผ่านเรื่องราวที่พูดคุยกับทีมงานในกองถ่าย และตามด้วยพอดแคสต์ที่แบ่งออกเป็น 3 ตอนด้วยกัน โดยในตอนแรกเป็นการพูดคุยกับ อภิโชค จันทรเสน (นท) อดีตเพอร์เฟคชั่นนิสต์สายเฆี่ยนตีตัวเอง ที่จะมาพูดคุยประเด็นของสุขภาพใจสุขภาพกาย ซึ่งเป็นสิ่งที่เขามองว่ามักเป็นประเด็นที่หลงลืมกันบ่อยครั้ง ตอนที่ 2 พูดคุยกับ ณฐพล บุญประกอบ (ไก่) ที่เข้ามาแลกเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อ ‘สถาบันการศึกษา’ ความคาดหวังและความผิดหวังผลักให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตัวเองอย่างไร และในตอนสุดท้ายเราได้คุยกับ Dude, Movie จากเชียงใหม่ กลุ่มที่ไม่ได้จำกัดตัวเองแค่คนฉายหนังเท่านั้น แต่ยังมองไปถึงว่าจะสร้างคอมมูนิตี้ที่ดียิ่งกว่าขึ้นมาด้วยวิธีอะไรได้บ้าง

 

From Montika Kham-on <kmontika@gmail.com>
Date: Feb 11, 2022, 10:36 PM
Subject: The Classroom is Burning
To: Kantida (kantida@bangkokcitycity.com)

สวัสดีค่ะพี่แพรว

พี่แพรวยังคงจำหนังสือ Letters: The Classroom is Burning, let’s dream about a School of Improper Education ที่ให้เอิร์นเป็นของขวัญได้ไหมคะ มันเป็นเรื่องราวของตัวละครสามคนที่เขียนอีเมลเพื่อพูดคุยถกเถียงในประเด็นการศึกษา ทันทีที่เอิร์นอ่านจบ เอิร์นก็รีบร่างจดหมายนี้ขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น เพราะรู้สึกว่าพวกเรานั้นไม่ต่างอะไรจากตัวละครในเรื่องราวนี้เลย

ในวันแรกที่เอิร์นรับสายจากพี่แพรวและเราแลกเปลี่ยนความเห็นต่อประเด็นการศึกษา เอิร์นพรั่งพรูเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับประสบการณ์ในรั้วมหาลัยว่าเราทั้งโกรธ ทั้งผิดหวังแค่ไหน ไม่ต่างจากตัวละคร Sul ในหนังสือเล่มนี้ที่เขียนจดหมายถึงเพื่อนว่าเธอไม่ได้รับการตอบรับจากการสมัคร fellowship ด้วยน้ำเสียงเดียวกัน 

“มหาวิทยาลัยตายแล้ว”
นั้นคือคำที่จั่วหัวเรามาตลอด จนอาจคับคล้ายว่าเป็นคำสาปแช่งไปเสียแล้ว

เราฝังใจและเชื่อเหลือเกินว่าสถาบันการศึกษาไม่ใช่สถานที่ที่เราสามารถฝากความหวังได้อีกต่อไป ยิ่งเจอกับภาวะโรคระบาดเข้าไป กลายเป็นว่าการเรียนรู้ทุกอย่างถูกแช่แข็ง ทิ้งผู้เรียนอยู่ในสูญญากาศของความเวิ้งว้างนั้น เราจึงมุ่งหวังว่าการเปิดพื้นที่ของการพูดคุยแลกเปลี่ยนนี้จะช่วยละลายน้ำแข็งก้อนนั้นออกไปไม่มากก็น้อย

แต่แล้ว ความคิดเราก็เปลี่ยนไปเมื่อเราเริ่มได้พูดคุยกับผู้คน เราตระหนักรู้ได้มากขึ้นสถาบันการศึกษาในทุกที่ล้วนแต่มีข้อจำกัดของตัวเอง ครูผู้สอนไม่อาจรู้ทุกอย่าง กลับกัน การเรียนรู้นอกห้องเรียนต่างหากที่สามารถทลายข้อจำกัดที่มหาลัยไม่สามารถมีได้ เราจึงต้องรื้อถอนความคิดของตัวเองใหม่เกี่ยวกับคำว่าการศึกษา การเรียนรู้ในสถาบันมาตลอดสิบเจ็ดปีทำให้เราสูญเสียจินตนาการเกี่ยวกับการศึกษาในรูปแบบอื่นไปแล้ว อะไรคือการศึกษาบ้าง เรานึกถึงตัวอย่างในหนังสือที่เล่าถึง ครูชาวอินโดนีเซียให้เด็กนักเรียนของเขานั่งดูคลื่นเป็นชั่วโมงแล้วเขาจึงค่อยสั่งโจทย์ให้นักเรียนของเขาทำท่าทางตามคลื่น แบบนี้เราเรียกว่ามันเป็นการศึกษาได้ไหม? เพราะการศึกษาแท้จริงแล้วคือการเรียนรู้ และ ประโยคที่ว่า let’s dream about a School of Improper Education จึงเป็นชื่อเรื่องที่เหมาะสมที่สุด เพราะคำว่า improper หรือไม่เหมาะสม ในที่นี้ไม่ใช่สิ่งที่ตรงข้ามกับเหมาะสม เป็นระเบียนแบบแผนของความเป็นสถาบัน แต่มันคือทางเลือกในการเรียนรู้อีกทาง และเป็นทางที่เราสามารถใช้วิพากษ์การศึกษาอันเป็นแบบแผนของสถาบันได้

และถ้าความเหมาะสมการศึกษานั้นคือการเรียนรู้ที่เต็มไปด้วยกฏระเบียบตามแบบแผนที่สถาบันกำหนดมาในหน้ากระดาษ การเรียนรู้จากคนที่เขาเชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ (Master) ก็คงจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งเหมือนที่เราเลือกทำกับการพูดคุย podcast ในโปรเจกต์นี้ แต่สิ่งที่สำคัญคือกระบวนการในการถกเถียงนั้นก็ถือเป็นกระบวนการเรียนรู้ไปเรียบร้อยแล้วกลายเป็นว่า process ของ podcast มันกลายเป็นการเดินทางครั้งสำคัญของเอิร์น

และในฐานะคนที่ร่วมงานกับพี่แพรวมาเป็นเวลาหลายเดือน นอกจากบทสนทนาของเราเกี่ยวกับโปรเจกต์พี่แพรว ช่วงเวลาว่าง ๆ พี่แพรวมักจะมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับบทสนทนาของผู้คนที่เดินเข้ามาในร้านหนังสือ  ความพยายามเชื่อมต่อแลกเปลี่ยนกับคนที่เข้ามาในพื้นที่ทุกคน ทุกเรื่องราวที่พูดคุยกันในที่แห่งนั้นล้วนเป็นเรื่องสำคัญ ในความทรงจำของพี่แพรวเสมอมา และนั้นทำให้เอิร์นได้รู้ว่า พี่แพรวได้สร้างหลักสูตรการศึกษาของตัวเองขึ้นมาในชีวิตของตัวเองอยู่ในทุกๆ วันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม เอิร์นยังคงจดจำน้ำเสียงตื่นเต้นและความตั้งใจของพี่แพรวได้เป็นอย่างดีว่าอยากจะถ่ายทอด ความสนใจ ความสุข ความทุกข์ ความหวัง ในบทสนทนาเหล่านั้นมากแค่ไหน 

เราเห็นคนคนหนึ่งที่เฝ้ามองการผ่านมาผ่านไปของผู้คนในร้านหนังสือ แต่จิตวิญญาณได้เดินทางต่อไปพร้อมๆ กับเรื่องราวของผู้คน ชีวิตและการเรียนรู้ที่ไม่ได้แยกออกจากกัน เหมือนดั่งประโยคที่จริงที่สุดในหนังสือเล่มนี้ “There is no line between life and study.”

ด้วความคิดถึง,

เอิร์น

THE CLASSROOM IS BURNING EP.1 พูดคุยกับ อภิโชค จันทรเสน

“เราไปรับรู้เรื่อง creative process ที่ต่างจากส่ิงที่คณะและเมืองไทยสนใจเลย จริงๆ ที่เราพูดถึงทีสิสว่าเป็นปราการด่านสุดท้ายของชีวิตนักศึกษา เป็นตัวอย่างที่ดีมากของระบบความคิดที่ไม่ได้คิดถึง creative process แต่คิดถึง end result คิดถึงงานชิ้นสุดท้าย ความซวยของคนทำงานครีเอทีฟส่วนนึงคือ เราทำงาน 100 ส่วน แต่สิ่งที่คนมาเห็นจริงๆ คือ 5 ส่วนในร้อยนั้น เขาไม่รู้หรอกว่าที่เหลือเราทำอะไรไปบ้าง เราเฆี่ยนตีตัวเองขนาดไหน แทนที่เราจะไปสนใจที่ final product เราลองมาสนใจที่ตัว process ระหว่างทางมั้ย ในตอนแรกที่เราพูดไปว่า ไม่มีใครไปแคร์อะ ซึ่งมันฟังดูแย่ แต่จริงในทางเดียวกัน มันก็ดีเพราะมันไม่มีใครแคร์ไงว่าในระหว่างนี้เราไปเละเทะอะไรยังไงแค่ไหน หรือทำในที่คนอื่นคิดว่าเละแต่จริงๆ มันคือ process ของเรา”— อภิโชค จันทรเสน

THE CLASSROOM IS BURNING EP.2 พูดคุยกับ ณฐพล บุญประกอบ 

“เราเชื่อว่าสิ่งสำคัญที่ได้จากการทำสารคดีคือ process ในการจับมือและปล่อยมือ มันคือการ กูมีเป้าแบบนี้ แต่ พอกูไปเจอสิ่งที่แม่งเป็นหัวใจสำคัญ หรือเป็นสิ่งที่น่าสนใจจริง ๆ เราต้องยอมปล่อยมือจากส่ิงที่เราทำมาทั้งหมด ฟุตเทจที่ถ่ายมา 100 ชั่วโมงทิ้งหมด แม่งเป็นเรื่องปกติมากในการทำสารคดี แล้วเราว่าคนส่วนใหญ่ยังไม่กล้า แล้วก็รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่น่ากลัว รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่กูลงทุนไปแล้ว ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วมันเป็นแค่สเตปนึงน่ะ ในการพาเราไปสู่สิ่งที่น่าสนใจจริงๆ ที่ซ่อนอยู่ในสเตปนั้น ชอบเปรียบเทียบมันคือเหมือนทาร์ซานโหนเถาวัลย์ คือต้องยอมปล่อยมือจากเถาวัลย์แรกเพื่อไปต้นที่สองให้ได้ ไม่งั้นก็โหนอยู่กับที่” — ณฐพล บุญประกอบ

THE CLASSROOM IS BURNING EP.3 พูดคุยกับ Dude, Movie

“เรามองว่าสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจในการทำคอมมูนิตี้หรือว่าการเกิดขึ้นของคอลเลกทีฟคือ การหาคนที่แบบ ‘เชี้ย มึงคิดเหมือนกูหรอวะ’ ให้เข้ามาจอย ให้เข้ามาทำงาน บรรยากาศของคอลเลกทีฟมันอาจจะเกิดขึ้นอยู่ทั่วไปอย่างตลอดเวลา เราสนใจว่ากระบวนการอะไรที่ทำให้คนมาอยู่ร่วมกันแล้วมันแข็งแรงแล้วก็อยู่ได้นาน ซึ่งถ้าในอนาคตเราว่า ถ้าปัญหามันยังคงอยู่ การขับเคลื่อนแบบเป็นคอลเลกทีฟมันอิมแพคกว่าขับเคลื่อนอย่างโดดเดี่ยว เสียงหนึ่งอะเนอะถ้ายิ่งมันเยอะเท่าไหร่แล้ว มีเดียมของมันที่จะใช้ มันยิ่งมากขึ้น เรารู้สึกว่าคอลเลกทีฟพอมันเห็นผลว่า ‘เออว่ะ กลุ่มนี้ทำเรื่องนี้แล้วมันเรียกร้องได้จริง’ แสดงว่าอีกกลุ่มหนึ่งก็จะยิ่งหาคน ยิ่งหาทีมมากขึ้นกว่าเดิมเพื่อขับเคลื่อนประเด็นนั้นๆ ต่อไป”— Dude, Movie

CONTRIBUTORS

มนธิการ์ คำออน (เอิร์น)
นักสร้างภาพยนตร์ เธอความสนใจถึงศักยภาพของภาพเคลื่อนไหว และความเป็นไปได้ใหม่ๆ ของเทคโนโลยีภาพยนตร์ เธอเชื่อว่าภาพเคลื่อนไหวสามารถใช้สำรวจอดีต และสร้างพิมพ์เขียวของอนาคตได้เช่นเดียวกัน
https://www.montikakhamon.com

อภิโชค จันทรเสน (นท)
นักเขียนบทและผู้กำกับภาพยนตร์และซีรีส์ที่สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับคนชายขอบ ประเด็นทางสังคม และสุขภาพจิต รักในการนำเรื่องยากมาย่อยให้เข้าใจง่ายผ่านการเล่าด้วย genre ต่างๆ โดยเฉพาะภาพยนตร์ตลกและสยองขวัญ อภิโชคจบการศึกษาด้านภาพยนตร์จาก University of Southern California ลอส แองเจลิส และคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  

ณฐพล บุญประกอบ (ไก่)
ผู้กำกับภาพยนตร์สารคดีเรื่อง เอหิปัสสิโก (Come and See, 2562) และผู้ร่วมเขียนบทและกำกับภาพยนตร์เรื่อง One for the road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ (2565) ณฐพลสนในประเด็นทางสังคมเฉพาะเรื่อง ด้วยความต้องการอยากจะเข้าใจถึงที่มาที่ไป เหตุผลในการกระทำของคนและการเกิดขึ้นของส่ิงต่างๆ งานของเขาจึงเล่าผ่านสื่อภาพเคลื่อนไหวประเภทสารคดี
https://www.nottaponboon.com

Dude, Movie (อ้น—ณัฐกุล คำพินิจ, ไอซ์—อนันตญา ชาญเลิศไพศาล, จอร์จ—ภัทร ล้อมลาย, ยอร์ช—สหัสวรรษ ทาติ๊บ)
ในเดือนมกราคม 2564 Dude, Movie เริ่มต้นความคิดที่จะจัดโรงฉายภาพยนตร์ที่มีเพียงจอฉายสีขาวและเครื่องฉาย ณ ดาดฟ้าของโฮสเทลแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ โดยภาพยนตร์เรื่อง Dead Poets Society ถูกหยิบมาฉายเป็นเรื่องแรกอย่างไม่มีพิธีรีตอง และการเริ่มงานในวันแรกของ Dude, Movie ก็ได้กลายเป็นธงนำทางจนถึงปัจจุบัน
https://www.facebook.com/Dudemovie

ภาพปกโดย มนธิการ์ คำออน

เรียบเรียงโดย กานต์ธิดา บุษบา และ มนธิการ์ คำออน
พิสูจน์อักษรโดย นภิษา ลีละศุภพงษ์
ตัดต่อพอดแคสต์โดย พันแสง คล่องดี และ กานต์ธิดา บุษบา
ขอบคุณ Speedy Grandma ในการเอื้อเฟื้อสถานที่สำหรับอัดเสียง